11 เรื่องถูกดันเป็น Soft Power ไทย สร้างมูลค่าให้สินค้า เพิ่มขีดความสามารถแข่งขันระดับโลก

11 เรื่องถูกดันเป็น Soft Power ไทย สร้างมูลค่าให้สินค้า เพิ่มขีดความสามารถแข่งขันระดับโลก
.
คำว่า “Soft Power” เป็นคำที่ถูกพูดถึงมากในระยะหลัง และเราเห็นกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จอย่างเกาหลีที่สามารถผลักดันวัฒนธรรมของพวกเขากลายเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วโลกผ่านอุตสาหกรรมบันเทิงอย่าง ซีรีส์, MV เพลง 
.
เมื่อมองย้อนกลับมาที่ประเทศกับคำถามที่ว่า “มีเรื่องอะไรบ้างที่พอจะเป็น Soft Power ได้บ้าง” หากยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ ผ่านเรื่องราว หรือกิจกรรมที่ทำก็มีอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น “เจ๊ไฝ” บุกอิตาลีหอบเตาอังโล่โชว์ทำไข่เจียวปู, การกินข้าวเหนียวมะม่วงโชว์ของ “มิลลิ” ศิลปินแรปเปอร์ชาวไทยบนเวทีงานเทศกาลดนตรีระดับโลก Coachella Valley Music and Arts Festival ที่สหรัฐฯ, การให้สัมภาษณ์ของ “ลิซ่า BLACKPINK” ที่บอกว่าลูกชิ้นยืนกินที่สถานีรถไฟจังหวัดบุรีรัมย์คืออาหารโปรดของเธอ
 
แน่นอนว่าตอนนี้ประเทศไทยได้มียุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ที่จะขับเคลื่อน ส่งเสริม เป็นเครื่องมือช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และบริการ ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับประเทศ ผ่านคอนเทนต์ 11 อุตสาหกรรม Soft power เป้าหมายของประเทศไทย 
 
โดยการขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายตามนโยบาย OFOS และ THACCA แบ่งขั้นตอนการดำเนินงานเป็น 3 ขั้น ได้แก่
 
ขั้นที่ 1 : การพัฒนาคนผ่านกระบวนการส่งเสริมบ่มเพาะศักยภาพ โดยจะเฟ้นหาคนที่มีความฝันและอยากทำความฝันนั้นให้เป็นจริง ไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ จำนวน 20 ล้านคน จาก 20 ล้านครัวเรือน โดยให้แจ้งลงทะเบียนกับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อบ่มเพาะผ่านศูนย์บ่มเพาะทักษะสร้างสรรค์ ทั้งด้านทำอาหาร ฝึกมวยไทย วาดภาพศิลปะ ฝึกการแสดง ร้องเพลง ออกแบบ แฟชั่น ฝึกแข่ง e-sport และอื่น ๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
 
ขั้นที่ 2 การพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์สาขาต่าง ๆ ภายในประเทศ 11 สาขา ได้แก่ อาหาร กีฬา เฟสติวัล ท่องเที่ยว ดนตรี หนังสือ ภาพยนตร์ เกม ศิลปะ การออกแบบและแฟชั่น โดยจะมีการแก้กฎหมาย ข้อบังคับต่าง ๆ ให้มีความสอดคล้องกับยุคสมัยมากขึ้น
 
ขั้นที่ 3 การนำอุตสาหกรรมชอฟต์พาวเวอร์รุกสู่เวทีโลก จะเดินหน้าผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศสู่ระดับสากลด้วยการทูตเชิงวัฒนธรรม
 
#smartsme #ชอฟต์พาวเวอร์ #SoftPower #ธุรกิจ #สินค้าไทย
 
ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0Poz5v1n7sKCRhw2GT6MRBjw6FeyPQeiKGRMRpQW8J7xbbmc117LxfP5N7NXM1gEDl&id=100064445361951&mibextid=cr9u03
Visitors: 172,059